โอ้โห มาถึงแล้วเหรอ? นึกว่าหลงทางไปเข้าคอร์สสอนทำขนมซะอีก เออๆ เข้ามาสิ จะให้ช่วยอะไรก็ว่ามา เห็นว่าอยากสร้าง Landing Pages แบบปังๆ กันใช่ไหม? แหม สมัยนี้ใครๆ ก็อยากมีเว็บสวยๆ หน้าตาดีๆ ไว้หลอกเงินลูกค้า (ประชดนะ ประชด) แต่ก็นั่นแหละ ถ้าทำไม่เป็น มันก็เหมือนมีรถหรูแต่ขับไม่เป็น ขับไปชนต้นไม้เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน เอาเป็นว่า วันนี้ป้า 9tum คนนี้จะมาแนะแนวทางแบบบ้านๆ แต่ได้ผลเกินคาด ด้วยพลังแห่ง LLM (Large Language Models) นี่แหละ ที่จะมาช่วยให้ชีวิตพวกเธอว์ง่ายขึ้น ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูละกัน อย่ามาอ้างว่าไม่บอกนะ!

โอ๊ยยย ถามเหมือนเพิ่งตื่นจากจำศีล LLM หรือ Large Language Models มันก็คือสมองกลอัจฉริยะที่ประมวลผลภาษาได้เก่งกาจ จนบางทีก็เก่งกว่าคนจริงๆ อีกนะเออ มันสามารถเข้าใจ วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ข้อความได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่บทกวี ยันสคริปต์หนังโป๊ (อันหลังนี่ไม่แนะนำให้เอาไปใช้นะ เดี๋ยวโดนปิดเว็บ) ที่สำคัญ มันคือเครื่องมือชั้นดีที่จะมาช่วยพวกเธอว์ย่นระยะเวลาในการคิด คอนเทนต์ต่างๆ สำหรับ Landing Pages ของพวกเธอว์ไง เข้าใจยัง? ไม่ต้องมานั่งเกาหัวแกรกๆ นั่งจ้องหน้าจอจนตาเหลือกอีกต่อไป แค่บอกสิ่งที่ต้องการไป เจ้า LLM มันก็จัดให้ ยิ่งถ้าบอกละเอียด มันยิ่งทำได้ดี นี่แหละความสบายของยุค AI ถ้าไม่ใช้ก็โง่แล้วนะจะบอกให้

เรื่องมากจัง! ก็เลือกอันที่มันดังๆ อะ ChatGPT, Gemini, Claude อะไรพวกนั้นนั่นแหละ แต่ถ้าจะให้ดี ต้องดูว่าตัวไหนมันเก่งเรื่องอะไรนะ ไม่ใช่ว่าใช้ตัวเดียวกันหมด มันก็เหมือนกินข้าวร้านเดิมทุกวันจนเบื่ออะแหละ ลองดูว่า LLM ตัวไหนมันถนัดเขียน Copywriting เน้นการโน้มน้าวใจ หรือตัวไหนมันเก่งเรื่องการสรุปข้อมูล หรือสร้างหัวข้อเด็ดๆ ที่คนอ่านแล้วต้องคลิก ยิ่งถ้ามันมีเครื่องมือช่วยสร้างภาพ หรือช่วยตรวจสอบ SEO ด้วยนะ อันนั้นแหละ เริ่ด! บางทีก็ต้องลองผิดลองถูกบ้างนะ อย่ากลัว อย่าท้อ ถ้าเจ๊งก็ถือว่าซื้อประสบการณ์ไง ดีกว่ามานั่งเสียดายทีหลังนะจ๊ะ

นี่แหละ ไฮไลท์สำคัญ! LLM มันช่วยอะไรได้บ้างน่ะเหรอ? ฟังนะ แล้วจะอึ้ง!

เบื่อยังกับพาดหัวเดิมๆ ที่มีแต่คำว่า “ลดกระหน่ำ” “โปรโมชั่นสุดพิเศษ” นี่มันปีไหนแล้ว! ลองให้ LLM ช่วยคิดพาดหัวที่มันกระแทกใจลูกค้า สร้างความอยากรู้ หรือบอกประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับแบบตรงๆ สั้นๆ ได้ใจความ อย่างน้อยก็ทำให้ลูกค้าหยุดนิ้วที่กำลังจะปัดผ่าน มามองหน้าเว็บเราสักวินาทีก็ยังดี

ก็อย่างที่บอก LLM มันเก่งเรื่องภาษาไง ให้มันช่วยเขียนอธิบายสินค้าหรือบริการของเราให้น่าสนใจ อธิบายว่าทำไมลูกค้าต้องเลือกเรา จุดเด่นของเราคืออะไร ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา แต่แฝงด้วยความน่าเชื่อถือ ถ้าอยากให้มันดูหรูๆ หน่อย ก็บอกให้มันเขียนด้วยสไตล์นักเขียนดังๆ ก็ได้นะ (แต่ระวังลิขสิทธิ์!) การมีคอนเทนต์ที่ดีจะทำให้ลูกค้าอินกับแบรนด์เรามากขึ้น ไม่ใช่แค่มาซื้อของแล้วก็จากไป

อย่าคิดว่าแค่ “ซื้อเลย” มันพอแล้วนะ! ลองให้ LLM ช่วยคิด CTA ที่มันดูมีพลัง ดึงดูดให้ลูกค้าอยากคลิก เช่น “รับสิทธิ์ก่อนใคร” “ดาวน์โหลดฟรีตอนนี้” หรือ “ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี” อะไรทำนองนี้ มันจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ากำลังจะได้อะไรพิเศษบางอย่างจริงๆ การมี CTA ที่ชัดเจนและน่าสนใจ จะช่วยเพิ่ม Conversion Rate ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ

บางทีไอเดียดีๆ มันก็ตันได้ไง LLM มันเหมือนคลังสมองที่ไม่มีวันหมดอายุ ให้มันช่วยคิดสโลแกนที่จำง่าย สื่อถึงแบรนด์ของเราได้ดี หรือคำโปรยสั้นๆ ที่เอาไปใส่ในภาพ หรือแบนเนอร์ต่างๆ ก็ได้ มันจะช่วยให้แบรนด์ของเราดูมีความน่าสนใจและจดจำง่ายขึ้น

จะลดราคาอย่างเดียวมันก็ธรรมดาไป ลองให้ LLM ช่วยคิดข้อเสนอที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ซื้อ 1 แถม 1, ฟรีค่าจัดส่ง, หรือมีของแถมพิเศษเฉพาะช่วงนี้ การปรับแต่งข้อเสนอให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับคุณค่าที่มากกว่า แค่ราคาที่จ่ายไป

คิดว่าทำคอนเทนต์เสร็จแล้วจบเหรอ? ไม่ใช่แล้วนะ! ต้องเอามาปรับแต่งให้มันเข้าที่เข้าทางอีก LLM มันช่วยเราวิเคราะห์ได้นะ ว่าพาดหัวแบบไหนที่คนคลิกเยอะกว่า หรือ CTA แบบไหนที่กระตุ้นให้คนลงทะเบียนมากกว่า แล้วเราก็เอาข้อมูลพวกนี้ไปทดสอบ A/B Testing ดูไง ว่าอันไหนมันเวิร์คสุด ทำแบบนี้ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ Landing Pages ที่มันแบบว่า… สุดยอด! อย่ามาเสียดายเวลานะ ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็ต้องลงแรงหน่อย เข้าใจไหม? ไม่ใช่จะเอาแต่สบายๆ แล้วก็มาบ่นว่าทำไมไม่มีคนเข้า

ก็รู้ว่าพวกเธอว์ก็อยากให้เว็บตัวเองติดอันดับใน Google ใช่ไหมล่ะ? LLM อย่างเดียวมันอาจจะยังไม่พอไง ต้องเอามาผสานกับเครื่องมือ SEO ด้วยนะ เช่น ให้ LLM ช่วยหา Keyword ที่คนใช้เยอะๆ หรือช่วยเขียน Meta Description ที่มันน่าคลิก หรือแม้กระทั่งช่วยวิเคราะห์ว่าเนื้อหาของเรามันมี Keyword ครบถ้วนหรือยัง ถ้าทำแบบนี้ควบคู่กันไปนะ รับรองว่า Landing Pages ของพวกเธอว์ จะทั้งสวยทั้งปัง ทั้งคนเข้า ทั้งคนซื้อแน่นอน!

วงการ AI มันไปไวมากนะจะบอกให้! เดี๋ยวนี้มี LLM ตัวใหม่ๆ เกิดขึ้นมาตลอด ที่เน้นความสามารถเฉพาะด้านมากขึ้น บางตัวก็เก่งเรื่องการสร้างรูปภาพประกอบ บางตัวก็เก่งเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบเจาะลึก หรือบางตัวก็สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบ Real-time เหมือนมีพนักงานขายส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง การติดตามข่าวสาร LLM ล่าสุด จะช่วยให้พวกเธอว์ไม่ตกเทรนด์ และสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้กับการสร้าง Landing Pages ของตัวเองให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งได้ ลองไปหาอ่านข่าวตามเว็บที่น่าเชื่อถือดูนะ อย่ามาถามป้าอีกรอบล่ะ ขี้เกียจตอบซ้ำๆ!

โอเค มาถึงส่วนที่พวกเธอว์น่าจะชอบ เพราะมันคือการบอกข้อผิดพลาดของคนอื่นไงล่ะ ปัญหาที่เจอบ่อยๆ เลยนะ คือ บางคนให้ LLM มันเขียนทุกอย่างเลย แบบไม่คิดเองเลยสักนิด สุดท้ายได้คอนเทนต์ที่มันดูแห้งแล้ง ไม่มีอารมณ์ร่วม หรือบางทีก็ให้ข้อมูลผิดๆ มาก็มีนะ เพราะ LLM มันก็มีข้อจำกัดของมันเองไง ถ้าอยากได้งานดีๆ ก็ต้องเอามาเกลา มาตรวจสอบให้ดีก่อน อย่าไปเชื่อมันซะหมดหัวใจนะจ๊ะ และที่สำคัญ อย่าลืมใส่ความเป็นมนุษย์ลงไปบ้าง ทำให้มันดูมีชีวิตชีวาหน่อย ไม่ใช่หน้าตาแข็งๆ เหมือนหุ่นยนต์

อยากรู้เหรอว่าลูกค้าเราเป็นใคร? คิดยังไง? ทำไมถึงชอบสินค้าเรา? ให้ LLM ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าที่เรามี หรือแม้กระทั่งจำลองบุคลิกของลูกค้าในอุดมคติออกมาเลยก็ได้นะ พอเรารู้จักลูกค้าของเราดีขึ้น เราก็สามารถปรับคอนเทนต์บน Landing Pages ให้ตรงใจพวกเขาได้มากขึ้นไง มันไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่รู้จักใช้ให้เป็น!

อย่างที่บอกไปตอนแรก LLM ช่วยเราสร้างตัวเลือกคอนเทนต์ได้หลากหลายนะ จากนั้นเราก็เอามาทดสอบ A/B Testing เพื่อหาเวอร์ชันที่ดีที่สุดไง สมมติเรามีพาดหัว 5 แบบ LLM ก็ช่วยเราเขียน 5 แบบนี้มาให้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเอง ลองเอาไปใช้ดูนะ มันจะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะมากจริงๆ เชื่อป้าสิ!

สมัยนี้คนส่วนใหญ่ก็ใช้มือถือดูเว็บทั้งนั้นแหละ! ถ้า Landing Pages ของเรามันดูเพี้ยนๆ บนมือถือ ก็เตรียมตัวเจ๊งได้เลย LLM อาจจะช่วยเราแนะนำโครงสร้าง หรือการจัดวางองค์ประกอบที่เหมาะกับหน้าจอมือถือได้นะ หรือบางทีก็ช่วยเราเขียนข้อความที่กระชับมากขึ้น เหมาะกับการอ่านบนมือถือ ทำให้ลูกค้าไม่เบื่อก่อนที่จะเจอข้อมูลสำคัญ

โอ้โห ถามเหมือนอยากให้มันทำงานแทนทั้งชีวิตเลยนะ! คือ LLM มันเก่งเรื่องสร้างคอนเทนต์นะ แต่การออกแบบดีไซน์ การวางโครงสร้างเว็บ การตั้งค่าทางเทคนิค หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมากๆ อันนี้มันยังทำแทนมนุษย์ไม่ได้ทั้งหมดหรอก มันเป็นเหมือนผู้ช่วยอัจฉริยะมากกว่า ถ้าอยากได้ Landing Pages ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ ก็ต้องอาศัยฝีมือของนักออกแบบ หรือนักการตลาดมาช่วยเกลา มาปรับแต่งอีกทีนะจ๊ะ อย่าไปคาดหวังอะไรที่มันเกินตัวมันนักเลย!

นี่ก็ถามมาได้! LLM มันสร้างสรรค์ข้อความขึ้นมาใหม่ตามข้อมูลที่มันเรียนรู้มานะ โดยทั่วไปแล้วมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์อะไรหรอกนะ แต่! ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีโอกาสเลย ถ้าไปสั่งให้มันเลียนแบบงานของใครมาแบบเป๊ะๆ หรือเอาข้อมูลที่ติดลิขสิทธิ์ไปให้มันประมวลผล ถ้าอยากชัวร์จริงๆ ก็ควรตรวจสอบเนื้อหาที่ได้มาอีกครั้ง หรืออาจจะลองใช้เครื่องมือช่วยตรวจสอบลิขสิทธิ์ดูก็ได้นะ เพื่อความสบายใจของตัวเองไง จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวทีหลังไง!

ก็อย่างที่ป้าบอกไปหลายรอบแล้วไง! LLM มันช่วยเราสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ดึงดูดลูกค้าได้ไง พอเรามีพาดหัวที่เด็ดๆ เนื้อหาที่โน้มน้าวใจ และ CTA ที่กระตุ้นให้คลิก มันก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจทำตามที่เราต้องการมากขึ้นไง เช่น การกรอกฟอร์ม การสั่งซื้อ หรือการสมัครสมาชิก ยิ่งถ้าเราใช้ LLM ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล แล้วปรับปรุง Landing Pages ให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่ Conversion Rate จะพุ่งก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นแหละ! มันไม่ใช่เรื่องยากถ้าจะเข้าใจนะ

โอ้โห ถ้าถามแบบนี้ แสดงว่ากลัวความยุ่งยากสินะ! จริงๆ แล้วนะ การใช้ LLM ในการสร้างคอนเทนต์สำหรับ Landing Pages ไม่ได้ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคอะไรซับซ้อนมากมายขนาดนั้นหรอก ส่วนใหญ่ก็แค่พิมพ์คำสั่ง หรือ Prompt ที่เราต้องการลงไปในระบบของ LLM นั้นๆ แล้วก็รอรับผลลัพธ์ได้เลย ถ้าอยากให้มันทำได้ดีขึ้น ก็แค่เรียนรู้วิธีเขียน Prompt ให้มันชัดเจนและตรงประเด็นมากขึ้นก็พอ ถ้าอยากสร้างเว็บจริงๆ จังๆ ก็อาจจะต้องใช้เครื่องมือสร้างเว็บสำเร็จรูป หรือจ้างคนมาทำ แต่ถ้าแค่คอนเทนต์นะ สบายมาก!

ถามได้ดี! LLM มันเหมือนมีดสารพัดประโยชน์นะ ใช้ได้กับทุกธุรกิจแหละ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ E-commerce ที่อยากขายของออนไลน์, ธุรกิจบริการที่อยากหาลูกค้าใหม่ๆ, สตาร์ทอัพที่อยากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่นักการตลาดที่อยากทำแคมเปญโฆษณาต่างๆ คือถ้าคุณต้องการสื่อสารกับลูกค้า ต้องการโน้มน้าวใจ หรือต้องการให้ข้อมูลอะไรบางอย่างกับกลุ่มเป้าหมายนะ LLM ก็ช่วยคุณได้หมดแหละ! แค่ปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ให้เข้ากับบริบทของธุรกิจของตัวเองก็พอแล้ว!

ถ้ายังรู้สึกว่าตัวเองยัง "งงๆ" อยู่บ้าง และอยากหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการตลาดออนไลน์, SEO, หรือแม้กระทั่งการใช้ AI ในการทำธุรกิจ ลองเข้าไปดูที่เว็บนี้เลย Digital Tips เขามีบทความดีๆ เยอะมาก ที่จะช่วยให้พวกเธอว์เข้าใจโลกดิจิทัลมากขึ้น ไม่ต้องมานั่งถามป้าบ่อยๆ นะ!

สำหรับใครที่อยากตามข่าวสารวงการเทคโนโลยี AI หรือสตาร์ทอัพแบบอัปเดตสุดๆ เว็บนี้เลย Thumbsup เขาจะคอยอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ รวมถึงบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับ LLM หรือ AI ที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง Landing Pages ที่พวกเธอว์กำลังทำอยู่ก็ได้นะ ไปหาอ่านดูซะ!